ย่านเก่าในกรุงเทพฯ หลายแห่งนอกจากประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจแล้ว อาหารสูตรโบราณหรือร้านดั้งเดิมเป็นเครื่องชูรสที่เติมสีสันและรสชาติการเดินเที่ยวแบบฉบับผู้ดีตามตรอกได้มากทีเดียว สำหรับครั้งนี้ผมอยากพาผู้อ่านทุกท่านเดินชม เดินชิมความอร่อยย่านตลาดพลู แหล่งชุมชนเก่าแก่ย่านฝั่งธนบุรี
credit: trippacker
ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีเดิมทีเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวจีน แต่เมื่อมีการย้ายราชธานีไปยังฝั่งพระนคร ชาวจีนเดิมจึงย้ายสำมะโนครัวไปอยู่แถวสามแพร่งหรือสำเพ็งกันเป็นส่วนใหญ่ เมื่อที่ดินเริ่มว่างมากขึ้น ชาวมุสลิมจึงย้ายเข้ามาทำสวนพลูจนขยับขยายให้ชุมชนย่านตลาดบริเวณนี้เป็นแหล่งค้าพลูที่สำคัญจนได้รับการเรียกขานว่า “ตลาดพลู”
เวลาผ่านไปพลูหายไปตามวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนแปลงไป แม้จะเหลือต้นไว้เพียงในชื่อแต่มรดกตกทอดที่สื่อถึงตลาดพลูมีเพียงสถานีรถไฟตลาดพลู เส้นทางเดินหัวรถจักรจากวงเวียนใหญ่สู่แม่กลองเพียงสายเดียวที่ยังเหลืออยู่และร้านอาหารอายุรุ่นราวคราวแม่กับร้านรุ่นเยาว์ของชาวบ้านตั้งเรียงรายให้คนเมืองกรุงได้ลิ้มลอง
ปัจจุบันการเดินทางมาตลาดพลูไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงรถไฟหัวรถจักรดีเซลเหมือนแต่เก่าก่อน ยังมีรถไฟฟ้าสถานีตลาดพลูเป็นเพื่อนบ้านและยังมีถนนเป็นผู้ช่วย เมื่อมาถึงแล้วลองเดินชมสถานีรถไฟเก่าแก่ที่ยังไม่ผ่านการดัดแปลงให้ต่างจากแบบเก่าเท่าใดนัก แวะถ่ายภาพบนรางรถไฟไว้เป็นที่ระลึกให้นึกถึง ก่อนจะเดินชมบรรยากาศเก่าแก่ของย่านตลาดของคนธนบุรี
มองเยื้องข้ามรางรถไฟไปจะเห็นป้ายโรงเรียนจีนเก่าแก่เปิดให้คนได้เข้าไปชมเล็กน้อย หากผมจำไม่ผิดเห็นจะชื่อ กงลี้จงซัน โรงเรียนจีนเก่าแก่กว่า 100 ปี เดิมตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟตลาดพลูก่อนจะย้ายไปที่แห่งใหม่ซึ่งไม่ไกลจากจุดเดิมมากเท่าไร จากที่ถามคนแถวนั้น ตามปกติพอจะอนุญาตให้คนข้างนอกได้เข้าไปชมอยู่บ้าง แต่หลังจากมีการระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่แห่งนี้จึงปิดไม่ให้ใครเข้าชม
หากเดินชมถ่ายภาพพอเป็นพิธีบ้างแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะเชิญผู้อ่านมาถึงไฮไลต์สำคัญที่น่าสนใจ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจนอกจากกุยช่ายของดังย่านนี้แล้วยังมีร้านดังอีกหลายร้านให้เลือกชิม สำหรับในบทความนี้ผมขอเลือกมานำเสนอเพียง 4 ร้านน่าจะเพียงพอ
credit: วารสารบ้านเรา
ร้านกระเพาะปลาเจ้าอร่อยประจำย่านที่นอกจากรสชาติที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังมีทีเด็ดด้านบริการที่เปิดกว้างให้ลูกค้าได้ออกแบบเมนูกระเพาะปลาตามความชอบของตนเอง ไม่ว่าเป็นไข่นกกระทา น่องไก่ชิ้นโต หน่อไม้ เลือด และอื่น ๆ ช่วยให้ทุกคนได้ทานในสิ่งที่ตนชอบในราคาเริ่มต้น 35 บาท
credit: วารสารบ้านเรา
ร้านข้าวหมูแดงริมทางรถไฟตลาดพลูที่มีอายุมานานกว่า 60 ปี นอกจากความอร่อยของหมูแดงและหมูกรอบแล้ว น้ำแดงราดข้าวเป็นอีกหนึ่งความอร่อยที่ดึงดูดลูกค้าและนักท่องเที่ยวมารอต่อแถวซื้อกันตลอดวัน โดยราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ 35 บาทเป็นต้นไป
credit: วารสารบ้านเรา
ร้านขนมหวานขวัญใจนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ริมทางรถไฟตลาดพลู นอกจากน้ำแข็งไสและของหวานนานาชนิดแล้ว เมนู “ไข่นิ-อ่าง” ไอศกรีมไข่แข็ง เป็นเมนูที่ชื่อดังของร้านที่ใครมาแล้วไม่ควรพลาด ด้วยรสชาติของไอศกรีมกะทิและไข่ดิบที่บรรจงวางมาอย่างสวยงามบนถ้วย รอให้นักชิมได้ทดสอบอร่อยในราคาถ้วยละ 40 บาทเท่านั้น
credit: วารสารบ้านเรา
ร้านขนมไทยสูตรโบราณที่เปิดให้บริการคู่กับตลาดพลูมานานมากว่า 30 ปี ภายในร้านมีขนมหวานให้เลือกกว่า 20 ชนิด ทั้งทองหยอด ขนมชั้น ขนมหม้อแกง และอื่น ๆ อีกหลายรายการ และราคาเริ่มต้นเพียง 8 บาทต่อชิ้น โดยเมนูที่ร้านแนะนำจะเป็น ตะโก้ ขนาดน่ารักพอดีคำในราคาเพียง 10 บาท ซึ่งใครที่สนใจอาจจะต้องใจเย็นหน่อย เพราะมีลูกค้ามารอต่อคิวเลือกซื้อขนมหวานกันชนิดที่เรียกว่าแน่นตลอดทั้งวัน
ย่านเก่าแก่ของเมืองกรุงนอกจากอาหารเลิศรสแล้ว ความเป็นมาและวิถีชีวิตของย่านเหล่านี้ยังเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้สนุกสนานและดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เมืองยุคใหม่ไม่อาจมอบให้ได้ เหมือนอย่างที่ตลาดพลูยังคงเป็นเฉกเช่นในปัจจุบัน